นักวิเคราะห์เปิดเผยว่านักลงทุนในตลาดหุ้นวอลล์สตรีทสัปดาห์นี้มีแนวโน้มที่จะคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะ fiscal cliff หรือภาวะที่มาตรการปรับขึ้นภาษีและปรับลดงบรายจ่ายวงเงิน 6 แสนล้านดอลลาร์ของรัฐบาลสหรัฐซึ่งจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในต้นปีนี้ และจะหันมากังวลกับปัญหาพื้นฐาน เช่นผลกำไรของภาคเอกชน ขณะที่ฤดูการรายงานผลประกอบการไตรมาส 4 จะเริ่มขึ้นในสัปดาห์นี้ เมื่อบริษัทอัลโค ซึ่งเป็นบริษัทอะลูมิเนียม เปิดเผยผลประกอบการในวันพรุ่งนี้ โดยเป็นที่คาดกันว่าผลประกอบการภาคเอกชนของสหรัฐในไตรมาส 4 อาจปรับตัว ดีขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับผลประกอบการที่ซบเซาในไตรมาส 3 ทั้งนี้นักวิเคราะห์ได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์ผลประกอบการไตรมาส 4 ลงมามากแล้วเมื่อเทียบกับตัวเลขคาดการณ์ในเดือนต.ค.2012 และการปรับลดนี้ถือเป็นสัญญาณเตือนประการหนึ่ง ซึ่งปัจจัยนี้อาจส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐแกว่งตัวผันผวนในสัปดาห์นี้หลังพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในสัปดาห์ที่แล้ว โดยดัชนี S&P 500 ของตลาดหุ้นสหรัฐ ปิดตลาดวันศุกร์ที่ 1,466.47 ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 31 ธ.ค. 2007 นอกจากนี้ ดัชนี S&P 500 ยังพุ่งขึ้น 4.6 % ในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งถือเป็น การทะยานขึ้นครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่า 1 ปี